สุขภาพผิวหนังของแมวบ่งบอกสุขภาพโดยรวมของแมวได้เป็นอย่างดี ผิวหนังของแมวควรเป็นสีชมพูหรือสีดำ (ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์) และขนควรมีลักษณะเรียบลื่นเป็นมันเงา
หากผิวหนังด้าน มีอาการคัน ลอกเป็นขุย มีจุดด่างดำ ขนหลุดร่วงเป็นหย่อม ๆ หรือเกิดอาการอักเสบ ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าผิวหนังมีความผิดปกติ ถ้ามีจุดดำ ๆ บนผิวหนังก็อาจเกิดจากตัวหมัด ส่วนขนถ้าดูด้านไร้ความมันเงาก็สามารถสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากโรคประจำตัว หากแมวเกาบ่อย ๆ และผิวตกสะเก็ด ก็เข้าข่ายว่าเป็นโรคผิวหนัง ควรเอาใจใส่ตรวจดูผิวหนังบริเวณใบหูของแมวด้วย หากมีของเหลวสีน้ำตาลหรือรอยแดง ควรพาแมวไปพบสัตวแพทย์
หากคุณสามารถจับอาการผิดปกติต่าง ๆ ที่ปรากฎบนผิวหนังของแมวได้ จะเป็นประโยชน์กับแมวเองเพราะพาแมวไปรักษาได้ทันท่วงที
แมวกับปัญหาผิวแห้ง
ผิวแห้งอาจจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง ยกเว้นว่าจะแห้งจนทำให้แมวเกาไม่หยุด อุณหภูมิภายในบ้านอาจส่งผลให้ผิวแห้งได้ เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศสามารถช่วยให้ผิวแมวชุ่มชื้นขึ้นได้
เห็บ หมัดและปรสิตบริเวณผิวหนัง
เห็บหมัดต่าง ๆ ที่อาศัยและหากินอยู่บนผิวหนังของแมว ก่อให้เกิดอาการคัน ผิวหนังอักเสบ เป็นแผล และขนร่วง กรณีร้ายแรงคือการที่ลูกแมวมีตัวหมัดจำนวนมาก ซึ่งจะดูดกินเลือดจนเกิดภาวะโลหิตจาง อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ตัวหมัดสามารถก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ในแมวได้เช่นกัน เรียกว่าอาการแพ้น้ำลายหมัด หรือ Flea Allergy Dermatitis (FAD) สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่าง ปัญหาผิวหนังส่วนใหญ่ที่เกิดจากปรสิตสามารถรักษาหายได้ไม่ยาก แต่จะมีบางกรณีที่ต้องใช้เวลาในการรักษาให้หาย
วิธีสังเกตตัวหมัดบนผิวหนังแมว
โรคผิวหนังของแมวหลายโรคเกิดจากตัวหมัด อาการที่ชัดเจนที่สุดว่าแมวโดนปรสิตพวกนี้รังควานคือ แมวจะเกาบ่อยมาก ถ้าไม่เกาตัวเองก็จะเลียทำความสะอาดขนบ่อยเกินไป จนขนร่วงเป็นหย่อมๆ
หมัดแมวจะมีสีน้ำตาลเข้ม ขนาดตัวยาวประมาณ 1 - 2 มิลลิเมตร และมักพบได้ง่ายขณะแปรงขนให้แมว ซึ่งจะมาพร้อมกับมูลสีดำเม็ดเล็ก ๆ ตามผิวด้วย
การกำจัดหมัดให้แมว
ปรึกษาสัตวแพทย์ถ้าคุณสงสัยว่าแมวโดนตัวหมัดรังควาน เพื่อหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม การรักษาแมวของคุณให้ปลอดจากหมัด เจ้าของควรดูแลสภาพแวดล้อมบริเวณที่แมวอาศัย ซึ่งอาจจะเป็นการทำความสะอาดที่นอน ปลอกหมอน และเสื้อผ้าด้วยการใช้อุณหภูมิสูง เมื่อกำจัดได้แล้ว อย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันหมัดตลอดทั้งปี
หมัดแมวและอาการแพ้น้ำลายหมัด (FAD)
ตัวหมัดทั้งสร้างความรำคาญให้กับสัตว์เลี้ยง และยังก่อโรคผิวหนังให้แมวได้มากมาย ตัวหมัดสายพันธุ์ที่พบบ่อยในแมวคือหมัดแมว แต่หมัดกระต่ายและเม่นก็สามารถติดต่อสู่แมวได้เช่นกัน บางครั้งน้ำลายหมัดจะสร้างความระคายเคืองและก่ออาการภูมิแพ้ให้กับแมว ซึ่งเรียกกันว่าอาการแพ้น้ำลายหมัด หรือ FAD (Flea Allergy Dermatitis)
โรค FAD มักแสดงอาการหลากหลายแบบ หลัก ๆ คือสร้างความระคายเคืองและอาการคันบนผิวหนัง ทำให้แมวเกาบ่อย ๆ จนถึงขั้นขนหลุดร่วงและตกสะเก็ดตามตัว ซึ่งถือเป็นอาการของโรคผิวหนังเป็นตุ่มแดง (Miliary Dermatitis)
แมวที่เป็นโรค FAD จะมีผิวที่แพ้ง่าย แค่มีหมัดเพียงตัวเดียวก็สามารถสร้างความคันจนแมวต้องเกาไม่หยุดได้เลยทีเดียว
สามารถศึกษาวิธีสังเกตแมวที่โดนหมัดรังควานและวิธีการรักษาได้ในหน้า เห็บหมัดในแมว
ภูมิแพ้ผิวหนังในแมว
แมวสามารถแพ้สารต่าง ๆ ได้มากมาย คล้ายกับมนุษย์เรา ปฏิกิริยาเหล่านี้จะเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันสร้างแอนติบอดีมาตอบโต้สารก่อภูมิแพ้ ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบ คัน และเกิดเป็นปัญหาผิวหนังได้มากมาย
สารที่ก่อภูมิแพ้ให้แมวได้แก่
- การสูดดมสปอร์ของเชื้อรา เกสรดอกไม้ และฝุ่นภายในบ้าน
- หมัดแมว
- โรคผิวหนังอักเสบจากการสัมผัส ซึ่งเกิดจากสารก่ออาการระคายเคืองมาสัมผัสผิวของแมว อาจเป็นได้ทั้งสบู่ น้ำหอม ผลิตภัณฑ์ฉีดพ่นในบ้านหรือในสวน สารเคมีต่าง ๆ ขนนก ผ้าขนสัตว์ รวมถึงปลอกคอป้องกันเห็บหมดบางชิ้นอีกด้วย
- อาหารบางชนิด
โรคขนร่วงที่เกิดในแมว
แมวจะผลัดขนตลอดทั้งปี (เรียกกันอีกชื่อว่าสลัดขน) แต่จะผลัดขนเยอะเป็นพิเศษคือช่วงฤดูร้อน คุณอาจจะต้องช่วยแมวดูแลขนให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ
แต่หากแมวของคุณขนร่วงเยอะผิดปกติ อาจเป็นไปได้ว่าแมวของคุณเป็นโรคขนร่วง ขนแมวส่วนใหญ่จะร่วงเพราะการเลียในบริเวณที่แมวรู้สึกคันหรือเจ็บมากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดจากโรคกลากที่มีต้นเหตุมาจากเชื้อรา หรือเกิดจากปรสิตที่หากินตามผิวหนังอย่าง เห็บ หมัด และไร รวมถึงความผิดปกติทางฮอร์โมนด้วย การที่แมวเลียทำความสะอาดขนมากเกินก็อาจจะเป็นนิสัยส่วนตัว หรือเกิดจากภาวะตึงเครียดที่เกิดในแมวมากกว่าสุนัข และนำไปสู่การอาเจียนก้อนขนออกมาเพราะต้องกลืนขนเข้าไปเยอะกว่าปกติ
ปกติแล้วสุขภาพและโภชนาการที่ย่ำแย่จะเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังในแมว แต่จริง ๆ แล้วการตั้งท้องหรือโรคประจำตัวก็อีกเป็นสาเหตุได้เช่นกัน
การรักษาแมวที่เป็นโรคขนร่วง
ก่อนที่สัตวแพทย์จะสั่งจ่ายยารักษาอาการขนร่วงให้แมว สัตวแพทย์จะตรวจสอบหาสาเหตุของโรครวมถึงโรคผิวหนังอื่น ๆ เพราะตัวหมัดอาจจะเป็นต้นเหตุของอาการคันที่พบได้ทั่วไป และก่อให้เกิดอาการขนร่วง สัตวแพทย์มักจ่ายยากำจัดหมัดให้ ซึ่งเจ้าของต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและติดตามความเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด
สัตวแพทย์อาจใช้ขนแมวบางส่วนหรือขูดผิวหนังเพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นตัวอย่างในการทดสอบหาเชื้อราที่ก่อโรคกลาก และปรสิตผิวหนังอื่น ๆ หรืออาจเจาะเลือดเพื่อไปตรวจหาโรคประจำตัวอื่น ๆ ในบางครั้งสัตวแพทย์อาจทดสอบอาการแพ้ หรืออาจจะตัดชิ้นเนื้อไปทดสอบ ซึ่งการตัดชิ้นเนื้อจะทำต่อเมื่อวางยาสลบ ไม่ต้องกังวลไปว่าแมวจะรู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด
หากสัตวแพทย์ไม่สามารถหาสาเหตุของโรคขนร่วงได้ หรือแมวตอบสนองต่อการรักษาได้ไม่ดี สัตวแพทย์ก็จะแนะนำให้คุณพาแมวไปตรวจกับสัตวแพทย์ผู้ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพื่อทำการตรวจสอบให้ละเอียดขึ้น หากคุณหรือสัตวแพทย์สงสัยว่าปัญหาเกิดจากพฤติกรรมของแมว คุณอาจต้องสืบหาต้นเหตุที่ทำให้แมวเครียด หรืออาจปรึกษานักพฤติกรรมสัตว์ก็ได้
โรคบางโรคที่ทำให้แมวขนร่วงอย่างโรคกลาก สามารถติดต่อไปสู่มนุษย์ได้เช่นกันแม้จะมีโอกาสต่ำ ดังนั้น การปรึกษาสัตวแพทย์เป็นวิธีที่ดีสุดเพื่อสุขภาพที่ดี มีความสุขของทั้งคุณและแมวที่คุณรัก
การดูแลผิวหนังแมวในช่วงฤดูร้อน
แมวมีดวงตาและจมูกที่บอบบาง ซึ่งอาจโดนแดดเผาได้ในช่วงฤดูร้อน แมวที่มีขนสีขาวจะเสี่ยงต่อการโดนแดดเผามากกว่า ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดสำหรับแมวโดยเฉพาะ บริเวณผิวหนังที่เสี่ยงโดนแดดเผา
หากปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้ รวมถึงศึกษาวิธีดูแลผิวหนังของสัตว์เลี้ยงให้สุขภาพดีอยู่เสมอ ก็มั่นใจได้เลยว่าคุณกับแมวจะมีชีวิตแสนสุขร่วมกัน