งานวิจัย Purina

นวัตกรรมงานวิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงที่เราคิดค้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา

Purina มุ่งมั่นพัฒนางานวิจัยด้านโภชนาการสัตว์เลี้ยงและบทบาทของอาหารต่อสุขภาพสัตว์มายาวนานเกือบหนึ่งทศวรรษ โดยค้นพบนวัตกรรมสำคัญหลายประการที่สร้างจุดเปลี่ยนและกำหนดมาตรฐานอาหารสัตว์เลี้ยงใหม่เป็นวงกว้าง

แม้การค้นหาข้อมูลด้านโภชนาการสัตว์เลี้ยงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่การได้มาซึ่งข้อมูลที่เชื่อถือได้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ในปี ค.ศ. 2018 Purina จึงก่อตั้งสถาบันวิจัย Purina เพื่อเป็นแหล่งรวมข้อมูลจากทั่วโลกที่มีการแบ่งปันศาสตร์ด้านโภชนาการในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตวแพทยศาสตร์และผู้นำทางความคิดในแวดวงวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาโภชนาการสัตว์เลี้ยง ช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีชีวิตที่ดีขึ้น และยืนยาวยิ่งขึ้น

ก่อนหน้า ถัดไป

1 of 1

สถาบันวิจัย Purina แบ่งปันงานวิจัยที่ก้าวล้ำของนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสัตว์เลี้ยงของ Purina กว่า 500 คนที่ทำงานในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและพัฒนา 8 แห่งทั่วโลก ทีมวิจัยและพัฒนาของ Purina มีขนาดใหญ่ที่สุดและครอบคลุมความเชี่ยวชาญพิเศษหลากหลายด้าน ซึ่งประกอบด้วยนักโภชนาการ สัตวแพทย์ นักพฤติกรรมศาสตร์ นักวิทยาภูมิคุ้มกัน นักเคมี ผู้เชี่ยวชาญด้านอณูชีววิทยา นักวิทยาศาสตร์การอาหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านความน่าดึงดูดของอาหาร ผู้ชำนาญการด้านจีโนมิกส์และชีวสารสนเทศศาสตร์ และสาขาอื่น ๆ

งานวิจัยคือหัวใจของการพัฒนา... และการพัฒนาไม่เคยมีจุดสิ้นสุด ยิ่งวิจัย ก็ยิ่งมีเรื่องที่อยากรู้ และอุตสาหกรรมนี้ยังมีเรื่องให้เราค้นคว้าอีกไม่รู้จบ ดังนั้น เรายังคงมุ่งพัฒนาสุขภาวะของสัตว์เลี้ยงให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

Dan Smith, รองประธานและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาระดับโลก Nestlé Purina.

การเป็นส่วนหนึ่งของ Nestlé บริษัทผู้จำหน่ายอาหารและโภชนาการที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดโอกาสให้เราได้สำรวจสุขภาพของสัตว์เลี้ยงและมนุษย์และหาจุดเชื่อมโยงโลกทั้งสอง และด้วยการแบ่งปันความรู้ความชำนาญระหว่างทีมวิจัยของเรา สถาบันวิจัย Purina จึงสามารถประยุกต์องค์ความรู้หลักกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์และภาวะสมองเสื่อม

หากต้องการศึกษางานวิจัยล้ำสมัยของ Purina และข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จำนวนมหาศาลผ่าน สถาบันวิจัย Purina โปรดไปที่ www.purinainstitute.com

งานวิจัยของเรา

ก่อนหน้า ถัดไป

ความเป็นมาด้านงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเรา

Purina ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันเกิดจากการรวมตัวของธุรกิจดูแลสัตว์เลี้ยงที่เป็นที่ยอมรับ 3 ราย ได้แก่ Purina, Spillers และ Friskies แต่ละธุรกิจล้วนมีมรดกด้านความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของตน และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน Purina ให้กลายเป็นผู้นำด้านโภชนาการสัตว์เลี้ยงระดับโลก

Black and white image of Labrador puppies

1926

Purina เปิดศูนย์วิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงในเกรย์ ซัมมิต รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา โดยในปีนี้เราใช้แนวทางวิทยาศาสตร์ในการวิจัยความต้องการทางโภชนาการของสัตว์เลี้ยง โดยศึกษางานวิจัยด้านการให้อาหารและการทดลองด้านโภชนาการ

1927

Purina เปิดตัว Winalot อาหารสุนัขยี่ห้อแรกที่มีสารอาหารครบถ้วนอย่างสมดุล ตามมาด้วย Bonio บิสกิตรูปกระดูกยี่ห้อแรก ในปี ค.ศ. 1929

1956

Purina เปิดตัว Dog Chow อาหารสัตว์เลี้ยงยี่ห้อแรกที่ใช้เทคโนโลยีการอัดขึ้นรูปให้ได้รูปทรงเฉพาะหรือ ‘อาหารเม็ด’ อย่างที่เราเห็นทุกวันนี้

1961

Purina เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่เพิ่ม “ทอรีน” ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นลงในอาหารแมว การขาดทอรีนอาจส่งผลให้เกิดภาวะผิดปกติต่าง ๆ เช่น จอประสาทตาเสื่อม และภาวะหัวใจโต

1976

Purina พัฒนาอาหารควบคุมน้ำหนักสำหรับสุนัขที่มีใยอาหารสูงและมีแคลอรีต่ำขึ้นเป็นครั้งแรก

1993

Purina คิดค้นระบบประเมินสุขภาพสัตว์เลี้ยงเบื้องต้น (Body Condition Score หรือ BCS) ซึ่งเป็นระบบแรกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและได้รับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีง่ายๆ ในการประเมินสัดส่วนของไขมันในร่างกายและบ่งชี้สภาพร่างกายในอุดมคติแก่สัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ได้กับทุกสายพันธุ์และน้ำหนักตัว

1998

Purina เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ใส่ “พรีไบโอติกส์” เพื่อเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร โดยเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของหัวชิโครี ซึ่งเป็นแหล่งทางธรรมชาติอันอุดมไปด้วยใยอาหารพรีไบโอติกที่ช่วยให้เกิดความสมดุลของจุลินทรีย์ในลำไส้

2000

Purina พิสูจน์ว่าการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงและคาร์โบไฮเดรตต่ำมีส่วนช่วยรักษาโรคเบาหวานในแมวได้ งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า 89% ของแมวที่กินอาหารของ Purina มีความต้องการอินซูลินลดลง และ 33% ไม่ต้องฉีดอินซูลินอีกเลย นอกจากนี้ Purina ยังเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ผสมใยอาหารลงในอาหารแมวเพื่อช่วยจัดการปัญหาก

2001

Purina ทำการศึกษาเรื่องการยืดอายุสัตว์เลี้ยงเป็นครั้งแรกเพื่อชี้ให้เห็นประโยชน์ของการรักษารูปร่างให้ผอมเพรียวต่อสุขภาพที่ดีของสุนัข

2005

Purina เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ใช้น้ำนมเหลืองเพื่อช่วยเสริมภูมิต้านทานตามธรรมชาติของลูกสุนัขและลูกแมว

2006

Purina พัฒนาอาหารชนิดแรกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยให้แมวโตมีชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาวยิ่งขึ้น

2010

Purina คิดค้นอาหารชนิดแรกที่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิกว่าช่วยปรับปรุงการทำงานของสมองสุนัข การวิจัยชี้ให้เห็นว่าไตรกลีเซอไรด์สายโซ่ขนาดกลาง (MCTs) เป็นแหล่งพลังงานทางเลือกสำหรับสมองที่มีอายุมากขึ้น

2017

ความร่วมมือของ Purina กับ Royal Veterinary College ที่กรุง London ประเทศอังกฤษ นำไปสู่อาหารชนิดแรกที่ผ่านการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าช่วยจัดการโรคลมบ้าหมูในสุนัขได้ ภายในเวลาเพียง 90 วัน พบว่าร้อยละ 14 ของสุนัขในการศึกษานี้ไม่มีการชักจากโรคลมบ้าหมูเลย และอีกร้อยละ 71 มีความถี่ในการชักลดลง

2020

Nestlé Purina เปิดตัว Pro Plan Live Clear อาหารแมวสูตรพิเศษที่ช่วยปฏิวัติวิธีการรับมือสารก่อภูมิแพ้แมว

1 of 15