- แมวขี้เล่นขี้สงสัย
- เข้ากับคนง่ายและต้องการการดูแล
- แมวพูดเก่งเล็กน้อย
- รูปร่างทั่วไป
- ต้องดูแล/ตัดขนทุกวัน
- สายพันธุ์ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้
- ต้องการพื้นที่นอกบ้านบ้าง
- แมวที่เหมาะกับเลี้ยงในครอบครัว
ข้อมูลสำคัญ
อายุเฉลี่ย : | 12-17 ปี |
น้ำหนัก : | 3.5–9 กิโลกรัม |
สีขน : | หลากหลายสี ลวดลาย และตำแหน่งแต้มสีขน |
คะแนนรวม
ความเป็นมิตรกับครอบครัว : | 5/5 |
ความขี้เล่น : | 4/5 |
ความฉลาดแสนรู้ : | 3/5 |
ระดับการส่งเสียง : | 1/5 |
ความเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่น : | 4/5 |
ความต้องการการดูแลขน : | 4/5 |
การผลัดขน : | 2/5 |
ลักษณะนิสัย
แมวพันธุ์รากามัฟฟินเป็นแมวที่เต็มไปด้วยความรักเจ้าของและความเป็นมิตร เวลาโดนอุ้ม ก็เรียกได้ว่าพร้อมทิ้งตัวให้โดนอุ้มเสมอ อีกทั้งเจ้ารากามัฟฟินยังเป็นสมาชิกครอบครัวคนเก่ง ที่ชอบให้คนในบ้านมาลูบพุง ให้นอนตัก นอนกอด หรืออะไรก็ตามที่คนมาทำให้ แมวตัวนี้ก็ชอบไปหมดซะทุกอย่างเลย โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเจ้าของทำให้เท่านั้น แต่จะเป็นใครก็ได้ที่อยากมาเล่นกับเจ้าแมวพันธุ์นี้ น้องจึงได้สมญา “เจ้าแมวตีนตุ๊กแก” (Velcro Cat) เพราะความรักคนสุดๆนี่เอง นอกจากนี้รากามัฟฟิน ยังเข้ากันได้ดีกับสัตว์เลี้ยงอื่น ผู้มาเยือน และยังชอบออกไปเที่ยว ทำให้การเดินเล่นไปกับเจ้าของก็เป็นสิ่งที่แมวพันธุ์นี้ทำได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ต้องพึงระลึกไว้เสมอก็คือกว่าน้องจะโตเต็มที่ อาจต้องเวลาถึง 4 ปี ซึ่งหมายความว่า วัยเด็กของเจ้าแมวพันธุ์นี้ที่ยังคงความขี้เล่นซุกซนนุ่มฟูจะยังคงอยู่นานกว่าแมวทั่วไป
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่ารากามัฟฟินสามารถเข้ากันได้ดีกับทุกคน รวมถึงเด็กและสัตว์เลี้ยงอื่นด้วย น้องเป็นแมวที่ขี้เล่น สนุกสนาน และฉลาดในการเล่นเกมแก้ปัญหา แต่บางทีถ้าน้องไม่เล่น ก็อาจเกิดจากความขี้เกียจด้วยส่วนหนึ่ง แต่ใครจะอดใจไม่เล่นกับเจ้ารากามัฟฟินได้ล่ะ ก็น้องน่ารักขนาดนี้ นอกจากนี้เจ้ารากามัฟฟินยังเป็นแมวฉลาดแสนรู้ที่สามารถสอนให้น้องคาบของมาให้หรือสอนให้เล่นอะไรที่ซับซ้อนขึ้นมาได้ และด้วยความที่เป็นน้องแมวนิ่ง ๆ รากามัฟฟินยังต้องการกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกับเจ้าของ นอกเหนือไปจากการเล่นแบบปกติ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการกิจกรรมและทำให้น้องเล่นกิจกรรมต่อไปได้ เพื่อคงสุขภาพที่ดีเอาไว้
ประวัติความเป็นมา
แมวพันธุ์รากามัฟฟินเป็นแมวที่มีความใกล้ชิดกับแมวพันธุ์แร็กดอลล์ โดยรากามัฟฟินนั้นเกิดขึ้นมาในขณะที่นักปรับปรุงพันธุ์ต้องการปรับปรุงพันธุ์เพื่อให้ได้น้องแมวสีใหม่ ลวดลายแบบใหม่ รวมถึงต้องการเพิ่มความหลากหลายทางพันธุกรรมของแมวลักษณะนี้ เนื่องจากแต่เริ่มเดิมทีนั้นนักปรับปรุงพันธุ์แมวแร็กดอลล์นั้นเข้มงวดกับการคัดเลือกพันธุ์ให้ได้ลักษณะจำเพาะประจำพันธุ์ ความหลากหลายทางพันธุกรรมจึงมีไม่มาก และด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง จึงทำให้น้องแมวพันธุ์รากามัฟฟินได้ถือกำเนิดขึ้น
ในกระบวนการปรับปรุงพันธุ์จะมีวิธีการผสมแบบข้ามพันธุ์ อย่างเช่น การผสมแมวพันธุ์หิมาลายัน เปอร์เซีย และน้องแมวเลี้ยงขนยาวพันธุ์อื่น ๆ จนได้มาเป็นเจ้าแมวพันธุ์ใหญ่ที่มีขนกึ่งยาวหลากสีพันธุ์นี้ขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังแถมมาด้วยลักษณะนิสัยสุดชิล ซึ่งความสุด ๆ ของเจ้าแมวพันธุ์นี้ก็คือนิสัยปล่อยใจปล่อยจอย ชนิดที่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด อยู่ในความคิดของเจ้าแมวพันธุ์นี้
ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลรายงานความเสี่ยงต่อการเกิดโรคของแมวพันธุ์รากามัฟฟิน
การสร้างแรงจูงใจให้เจ้ารากามัฟฟินสามารถทำได้โดยการใช้อาหารมาล่อ อย่างเช่นการใช้ของเล่นให้อาหารลับสมอง หรือการสอดแทรกกิจกรรมลับสมองไปกับการควบคุมอาหารของน้องในแต่ละวัน ซึ่งการจัดการอาหารสำหรับแมวพันธุ์นี้นั้น ควรมีการแบ่งมื้อและคำนวณพลังงานให้เหมาะสม ไม่ควรให้แบบไม่จำกัด เพราะเจ้าแมวพันธุ์นี้คือนักกินตัวยง
อาจมีต้นไม้แมว (cat-tree) ไว้ในบ้าน รวมถึงมุมพักผ่อนหย่อนใจ หรือมุมรับแดด เพราะรากามัฟฟินชอบที่จะนอนเอื่อยอยู่ใต้แสงแดด หรือมุดหาที่อบอุ่นในฤดูหนาว อีกทั้งการมีกิจกรรมประจำวันเล็ก ๆ อย่างเช่น การเล่นไล่จับของเล่น การเล่นไม้แมว ก็เป็นสิ่งที่ทำให้น้องแมวพันธุ์นี้ได้เคลื่อนไหว ทำให้มีสุขภาพที่แข็งแรง
รากามัฟฟินเป็นแมวที่พอจะทนใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นในบางอารมณ์ก็อาจสนุกไปกับกิจกรรมนอกบ้านได้เช่นกัน ซึ่งควรมีพื้นที่สวนปลอดภัยสำหรับน้องแมว และมีทางเดินสำหรับแมวโดยเฉพาะให้เข้าถึงได้ น้องแมวพันธุ์นี้จริง ๆ แล้วเป็นแมวที่ชิลเกินกว่าจะออกไปผจญภัย ซึ่งถ้าน้องหายตัวไปก็เป็นไปได้ว่า น้องอาจไปอยู่บนรถตู้แล้วหรือไม่ก็ได้เดินทางไปไกลแล้ว ไปกับคนที่เจ้ารากามัฟฟินเคยโปรยเสน่ห์เอาไว้นี่แหละมาพาตัวไป แต่ในทางที่ดีที่สุดนั้น คือ ควรเก็บน้องไว้เป็นแมวในบ้าน เพราะน้องแมวที่เชื่อใจใครง่ายแบบนี้ อาจจะไปติดกับผู้ล่าเข้าก็เป็นได้
แมวทุกตัวล้วนมีรสนิยมเฉพาะตัว ในเรื่องการกินก็มีสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบ และสิ่งที่ต้องการ แต่อย่างไรก็ตามแมวเป็นสัตว์กินเนื้อ และแมวทุกตัวจำเป็นต้องได้รับสารอาหารทั้งหมด 41 ชนิด ซึ่งจะได้รับทางการกินอาหารเท่านั้น โดยสัดส่วนความต้องสารอาหารนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละตัว ขึ้นกับอายุ ไลฟ์สไตล์ และสภาวะสุขภาพโดยรวม
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ลูกแมววัยกำลังซนจะมีความต้องการสารอาหารแตกต่างจากแมวสูงวัยที่ไม่ค่อยวิ่งเล่นแล้ว และอีกสิ่งสำคัญที่ต้องระลึกไว้เสมอคือการให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อคงหุ่นของแมวให้มีหุ่นที่ดีเสมอ โดยปริมาณการให้อาหารสามารถพิจารณาตามวิธีการให้อาหารของแต่ละผลิตภัณฑ์ และสามารถปรับปริมาณการให้ได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอาหารเปียกหรืออาหารแห้งก็ตาม
การควบคุมอาหารและน้ำหนักในแมวรากามัฟฟินเป็นสิ่งที่ควรจับตาดูไว้ตลอดเวลา เนื่องจากความที่น้องเป็นแมวเฉื่อย ทำให้มีโอกาสอ้วนได้ง่าย ดังนั้นก็อย่าลืมให้เจ้ารากามัฟฟินออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าเจ้าแมวติดบ้านของเราตัวนี้จะไม่มีน้ำหนักบานปลายจนเกินไป
สำหรับขนของเจ้ารากามัฟฟินนั้น ต้องการการดูแลขนเพียงแค่ไม่กี่นาทีต่อวันเท่านั้น ซึ่งก็เป็นเรื่องไม่ยากเลยที่จะดูลักษณะขนอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ขนของน้องไม่ควรจะพบก้อนสังคะตัง เพราะด้วยลักษณะขนของแมวพันธุ์นี้จะเป็นสังคะตังได้ยาก อีกทั้งเวลาดูแลขนนี่แหละที่เป็นโอกาสที่เจ้าของจะได้ดูว่าน้องมีแผล มีปรสิตภายนอก หรือดูลักษณะขนว่ามีความผิดปกติใด ๆ หรือไม่
รวมถึงการทำเป็นประจำยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณเจ้าของและน้องแมว อีกทั้งยังทำให้มั่นใจได้ว่าน้องแมวยังคงมีสุขภาพที่ดี โดยลักษณะขนที่ดูเป็นขนมันเยิ้ม บ่งบอกได้ว่าสุขภาพน้องแมวอาจมีบางอย่างผิดปกติไป หรือน้องแมวอาจมีน้ำหนักมากเกินไป จนทำให้น้องแมวไม่เลียขนแต่งขนตัวเอง นอกจากนี้ก็เช่นเดียวกันกับแมวทั่วไปคือ ควรทำวัคซีนให้ครบ ควบคุมปรสิตอย่างต่อเนื่อง และหมั่นพาน้องไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
แมวพันธุ์รากามัฟฟินเป็นแมวที่มีนิสัยชิลสุด ๆ จนถึงขั้นที่ทำให้แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่อยู่ร่วมกับครอบครัวได้ทุกรูปแบบ สามารถอยู่ได้แม้แต่ในบ้านที่วุ่นวาย แต่ทั้งนี้การใส่ใจไม่ให้เด็กในบ้านมาข่มน้องแมวหรือแสดงท่าทีที่ไม่เหมาะสมต่อน้องแมวก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งถ้าเหตุการณ์ที่ว่ามานั้นไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านของคุณ รวมถึงคุณพร้อมมีเวลาให้น้องเสมอ ทั้งเวลาเล่นและเวลาแต่งขน จะทำให้รากามัฟฟินของคุณจะเป็นสมาชิกครอบครัวที่วิเศษสุด ๆ ไปเลย
ต้องบอกว่าแมวพันธุ์รากามัฟฟินเป็นแมวที่แทบไม่เคยถูกเจอในสถานรับเลี้ยงสัตว์เลย แต่อย่างไรก็ตามคุณอาจจะเป็นคนโชคดีคนนั้นที่ได้เจอรากามัฟฟินที่ต้องการบ้านใหม่ ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปว่าเจ้ารากามัฟฟินนั้นเป็นแมวสุดพิเศษที่เข้าได้กับครอบครัวทุกรูปแบบ แต่ก็เพราะด้วยนิสัยที่เข้ากับคนได้ดีเช่นนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้แมวพันธุ์นี้ไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาให้ หรือแม้กระทั่งยุ่งมากเกินไปจนไม่อยู่บ้านเลยเป็นเวลานาน
ทั้งที่แท้จริงแล้วแมวพันธุ์นี้ไม่ใช่แมวที่มีความต้องการอะไรมากนัก แต่น้องก็ไม่ชอบถูกทิ้งไว้ตัวเดียว ซึ่งก็มีข้อพิสูจน์มาแล้วว่าการทิ้งน้องให้อยู่ตัวเดียวมาเป็นระยะเวลานานสามารถทำให้น้องเครียดจนป่วยได้ ดังนั้นก่อนที่จะรับมาเลี้ยงควรมีการปรึกษาองค์กรรับเลี้ยงสัตว์ เพื่อศึกษาลักษณะนิสัยของน้องแมวก่อนการรับเลี้ยง